ตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจเป็นกุญแจสำคัญ แต่ควรให้ความสำคัญกับการลด carbon intensity ในระบบเศรษฐกิจโลกในทุกทางก่อนเป็นอันดับแรก และในความพยายามของโลก เพื่อต่อต้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหลายธุรกิจใช้วิธีการซื้อ Carbon Credit เพื่อการ offset ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของตนเอง แต่ลำพังเพียงการใช้ระบบตลาดคาร์บอน ไม่สามารถช่วยให้ผ่านพ้นปัญหาของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
.
“ตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจ Carbon Credit เกิดจากโครงการลด - กำจัด - หลีกเลี่ยง การปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยผ่านการรับรองปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่สามารถหลีกเลี่ยงการปล่อยสู่บรรยากาศ หรือ การนำออกจากบรรยากาศ โดยบริษัทที่ทำการซื้อ - ขาย เพื่อการ offset ปริมาณการปล่ออยก๊าซเรือนกระจก และเมื่อ Credit ถูกใช้ไปก็จะไม่สามารถขายต่อไปได้อีก Winters ได้ให้ทรรศนะว่า ตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจ มีความสำคัญมากจาก 2 เหตุผล ประการแรก คือ การผันเม็ดเงินจำนวนมากจากธุรกิจที่มีความมุ่งมั่นที่จะจำกัดปริมาณการปล่อยของตนเองไปสู่ผู้พัฒนาโครงการลดก๊าซเรือนกระจก ประการที่สอง คือ เมื่อทุกอย่างถูกต้อง ตลาดจะเป็นตัวกำหนดราคาคาร์บอนที่สมบูรณ์และสามารถให้ความเชื่อมั่นได้ นอกเหนือไปจากราคาซื้อ-ขายเครดิต ซึ่งจะทำให้ภาคธุรกิจและภาครัฐสามารถนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจที่ถูกต้องได้
.
Winters ยังได้ให้ความเห็นต่อไปอีกว่าตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจยังมีปัญหาจากความไม่เท่าเทียมกันของมาตรฐาน และยังขาดความซื่อตรงโปร่งใสในการรับรองเครดิต นอกจากนี้ Winters ยังเป็นประธานของ Taskforce on Scaling Voluntary Carbon Markets ซึ่งจะช่วยสร้างมาตรฐานและเป็นการขยายตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจ
.
Carbon Credits คุณภาพสูงมีแนวโน้มขาดแคลน จากการบันทึกบัญชีและการทวนสอบที่แตกต่างกัน และจากปัญหาที่ ไม่ได้มีการกำหนดผลประโยชน์ที่จะได้รับอย่างชัดเจนจากการพัฒนาโครงการ (จากรายงานของ McKinsey & Company) และต่อไปจะเป็นปัญหาที่ภาคเอกชนต้องประสบจากระดับความต้องการ carbon credit มีแนวโน้มสูงขึ้น โดย McKinsey คาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดจะสูงถึง $50 billion
.
บทความโดย : Saheli
Roy Choudhury
.
ที่มา: https://cnb.cx/3CWKsE0
.
ขอขอบคุณข้อมูลจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก
(องค์การมหาชน)
.